Buy Acer C720 Chromebook Best price

Special Offers and Product Promotions Capacity: 16 GB Six-Month Financing: For a limited time, purchase $149 or more using the 2014laptopreviews Store Card and pay no interest for 6 months on your entire order if paid in full in 6 months.

Asus X200CA-HCL1104G 11.6 inch Touch Screen

Buy Used and Save: Buy a Used "Asus X200CA-HCL1104G 11.6 inch Touch Screen Laptop...” from 2014laptopreviews Warehouse Deals and save 55% off the $579.99 list price. Product is eligible for Amazon's 30-day returns policy and Prime or FREE Shipping.

The Samsung Chromebook is a new computer

"Samsung Chromebook (Wi-Fi, 11.6-Inch)" and save 37% off the $249.00 list price. Buy with confidence as the condition of this item and its timely delivery are guaranteed

Everything you need in one laptop

Buy a Used "HP Chromebook 11 (White/Blue)" and save 8% off the $279.99 list price. Buy with confidence as the condition of this item and its timely delivery are guaranteed

Acer Aspire V5-131-2629 11.6" Laptop (Black)

Six-Month Financing: For a limited time, purchase $149 or more using

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เปิดประสบการณ์หนี้บัตรเครดิต

เปิดประสบการณ์หนี้บัตรเครดิต ชีวิตจริงที่ผิดมากกว่าสองครั้ง

 ใครหลายคนอยากเป็นคนมี "เครดิต" กับบัตรพลาสติกใบเล็ก ๆ ที่พกแล้วดีมีสิทธิประโยชน์มากมาย แต่เรื่องเล่าของคนที่ผิดพลาดจากการใช้งานบัตรเครดิตก็มีออกมาเตือนใจไม่ น้อย จึงไม่แปลกที่จะยกฐานะของบัตรเครดิตมาเปรียบเทียบกับดาบสองคม แถมคมที่อยู่ในด้านมืดของบัตรเครดิตนี้ก็พร้อมจะทำลายผู้ใช้ด้วยความประมาท หรือใช้ด้วยความโลภให้บาดเจ็บเจียนตายได้อย่างง่ายดายเสียด้วย
   
       ทีมงานได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณเอก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ที่ยอมรับว่าชีวิตเขากำลังล้มเหลวว่า เขาเป็นหนึ่งในคนที่หลงใช้ชีวิตผิดพลาด มีหนี้ท่วมตัวจนถึงขั้นล้มละลาย ผ่านเครื่องมือทางการเงินที่มีชื่อว่า "บัตรเครดิต" โดยคุณเอกเริ่มต้นเรื่องราวของเขาว่า เขามีบัตรเครดิตครั้งแรกตั้งแต่ยังเรียนในระดับอุดมศึกษาอยู่เลยทีเดียว
    
       "ตอนนั้นใช้บัตรเสริมของคุณพ่อ โดยยอดการใช้จ่ายคุณพ่อเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด พี่น้อง 3 คนมีบัตรเสริมกันทุกคน แต่ละคนรูดใช้จ่ายกันอย่างไร ไม่มีใครทราบ สิ้นเดือนคุณพ่อเป็นคนเคลียร์ให้" คุณเอกเล่าย้อนถึงรูปแบบการใช้เงินของตนเองในอดีต
    
       เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาเข้าทำงานในบริษัทมีชื่อแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ภูมิใจแก่พ่อแม่เป็นอันมาก ในฐานะที่ลูกชายคนโตได้ดีทั้งด้านการเรียนและการงาน ท่านทั้งสองจึงปล่อยให้เขาบริหารชีวิตด้วยตัวเอง ขณะเดียวกัน ในยุคนั้น บริษัทบัตรเครดิตกำลังเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายมาเป็นกลุ่มบัณฑิตจบใหม่ เขาตัดสินใจสมัครใช้งาน เพื่อให้มีบัตรเครดิตของตนเอง คุณเอกยอมรับว่า เพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันก็ได้รับข้อเสนอดี ๆ จากบริษัทบัตรเครดิตเช่นนี้หลายราย
    
       จากคน ๆ หนึ่งที่เคยใช้แค่บัตรเสริม เมื่อมีบัตรเครดิตใบที่ 1 สถาบันทางการเงินก็เริ่มยื่นข้อเสนอให้เขามีบัตรใบที่สอง สาม สี่ มาเรื่อย ๆ จนถึงวันที่เขาหมดตัวล้มละลายนั้น เขามีบัตรพลาสติกเหล่านี้ในกระเป๋ามากกว่า 10 ใบ คุณเอกเล่าถึงสาเหตุของการวางแผนทางการเงินที่ผิดพลาดว่า นอกจากรูดบัตรแล้ว ยังมีการกดเงินสดออกมาใช้ล่วงหน้า ซึ่งค่าธรรมเนียมของการกดเงินสดเหล่านั้น ทางคุณเอกไม่ได้ศึกษาให้ดีเสียก่อน
    
       "ทางบัตรเครดิตเองก็มีบริการผ่อนชำระ จ่ายแค่ขั้นต่ำของยอดที่ต้องชำระก็ได้ ทำให้ชะล่าใจ จ่ายแค่นิดเดียว พอจ่ายแค่ขั้นต่ำ เงินเดือนที่เหลือเยอะขึ้นก็เลยเอาไปใช้จ่ายมากขึ้น หนี้ก็เริ่มมากขึ้น ๆ ๆ สุดท้ายก็ต้องสมัครบัตรใหม่ เพื่อกดเงินด่วนออกมาจ่ายชำระหนี้บัตรเครดิตใบเก่า เป็นวัฏจักรเช่นนี้ บัตรก็เริ่มมีเยอะขึ้น ๆ จนในที่สุด ยอดหนี้ก็เยอะเกินกว่าที่เงินเดือน ๆ หนึ่งจะสามารถจ่ายได้"
    
       ในเวลานั้น เขาอ้างว่า เหตุที่ใช้เงินเกินตัวเพราะอยู่ระหว่างการสร้างฐานะ และเริ่มต้นชีวิตครอบครัวของตัวเองด้วยการมีลูกชาย 1 คน ส่วนภรรยาก็ไม่ได้ทำงาน จึงเป็นเหตุให้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของครอบครัว เขาต้องรับผิดชอบคนเดียว
    
       เมื่อมีปัญหาทางการเงิน เขาจึงตัดสินใจกลับไปขอความช่วยเหลือจากทางบ้าน แต่ก็ต้องอึ้งเป็นคำรบสอง เมื่อทราบว่า พ่อของเขาซึ่งเคยเป็นหัวหน้าครอบครัวคนเก่ง หาเงินให้ลูก ๆ ใช้จ่ายมาตลอดนั้นก็ประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกัน โดยหนี้ที่พ่อของเขาก่อขึ้นนั้น ล้วนมาจากการใช้จ่ายภายในครอบครัวทั้งสิ้น

    
       "มาทราบว่าพ่อเองก็เจอปัญหาเช่นเดียวกัน จนพ่อต้องออกจากงาน และเอาเงินที่เก็บสะสมไว้ตลอดการทำงาน 30 กว่าปีไปใช้หนี้จนหมด ทำให้ย้อนนึกถึงตอนที่เด็ก ๆ ที่เรารูดบัตรพ่อไปใช้ แต่พ่อไม่เคยบ่น ไม่เคยว่า เราจึงไม่รู้เลยว่าพ่อเองก็มีปัญหาทางการเงินเช่นกัน ตอนนี้จึงเท่ากับว่า เราต้องรับผิดชอบทั้งครอบครัวตัวเองและพ่อแม่ เพราะหนี้ของพ่อทำให้เงินเก็บหลังเกษียนหมดลง"
    
       เมื่อไม่สามารถพึ่งครอบครัวได้ คุณเอกจึงตัดสินใจบ่ายหน้าไปหาญาติพี่น้อง โดยเขาได้รับความช่วยเหลือจากคุณลุงผู้เป็นพี่ชายของพ่อ ด้วยคุณลุงท่านนี้เป็นคนที่ค่อนข้างมีหน้าที่การงานมั่นคง อีกทั้งยังเป็นโสด ไม่มีครอบครัว เขาจึงขอหยิบยืมเงินจากคุณลุงจำนวน 1 ล้านบาทเพื่อไปใช้หนี้
    
       แม้คุณเอกจะเล่าว่า เขาต้องยอมให้คุณลุงท่านนี้ดุด่าว่ากล่าวอยู่นานหลายชั่วโมงถึงการบริหาร เงินที่ผิดพลาดด้วยความผิดหวัง เพราะเขาเป็นหลานที่คุณลุงรักมาก กว่าที่เขาจะได้รับเงินก้อนนี้มา แต่ในอีกมุมหนึ่ง นี่ก็เป็นวิธีหาเงินที่ง่าย และรวดเร็วที่สุดแล้ว
    
       แต่เงินที่ได้มาง่าย ๆ ก็ไม่ได้สร้างบทเรียนอะไรให้กับชีวิต ....


ทันทีที่ได้เงินมา แทนที่เขาจะนำไปจ่ายชำระหนี้ของบัตรเครดิตแต่ละใบให้หมด แล้วเลิกใช้งานบัตรเครดิตเหล่านั้น เริ่มต้นชีวิตใหม่ เขากลับนำเงินบางส่วนมาใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่ยอดหนี้ก็ยังเดินหน้าคิดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
    
       คุณเอกบอกว่า เขารอจนถึงวันครบกำหนดชำระ จึงค่อยไปจ่ายเงิน แต่ทันทีที่จ่ายเงินชำระหนี้ไปแล้ว บัตรเครดิตใบนั้นของเขาก็ประหนึ่งกลับมามีชีวิต เขาสามารถรูด-กดเงินสำรองมาใช้ได้อีกครั้ง!!
    
       เขาทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนในที่สุด เงิน 1 ล้านบาทที่ได้รับมาก็หมดลง โดยที่หนี้ของเขาไม่ได้หมดตามไปด้วย
    
       อย่างไรก็ดี หนี้ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขาไม่สามารถจะบากหน้ากลับไปหาคุณลุงท่านเดิมได้อีกต่อไปแล้ว เขาจึงมองหาญาติพี่น้องของพ่อคนต่อไป รายแล้วรายเล่า จนทุกคนได้แต่ส่ายหน้าเมื่อเขาและพ่อแวะเวียนไปหา
    
       "หลัง ๆ ไม่มีใครช่วยแล้ว ก็ต้องหาทางช่วยตัวเอง แต่ก็ยังดีที่คุณลุง (คุณลุงท่านแรกที่เคยให้ยืมเงิน 1 ล้านบาท) ยังช่วยค่าใช้จ่ายของพ่อบ้าง ตอนนี้งานที่ทำอยู่ก็ต้องลาออก เพราะบริษัททวงหนี้ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือของเราหมดลง คนในองค์กรก็ไม่ยอมรับอีกต่อไป เลยก็ต้องมองหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำไปก่อน" คุณเอกเล่า
    
       ส่วนครอบครัวนั้น เขาเล่าว่า กำลังมีปัญหากับภรรยา จากที่ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของภรรยาเชื่อว่าเขาเป็นคนมีฐานะดี มีรายได้สูง จึงตั้งความหวังกับเขาเอาไว้มาก เมื่อทราบความจริงว่า เขาในตอนนี้อยู่ในสภาพเกือบ ๆ จะล้มละลาย เงินไม่มีให้เหมือนเดิม ก็ปฏิบัติต่อเขาเปลี่ยนไป
    
       "ตอนนี้ก็แยกกันอยู่ กลับมาอยู่บ้านพ่อ แล้วให้พ่อช่วยเลี้ยงลูกให้ เงินที่ใช้ก็เป็นของคุณลุง แล้วก็พยายามหางานทำอยู่" คุณเอกยอมรับแบบไม่อาย
    
       หลายคนที่เคยประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกับคุณเอก อาจมีทางออกให้กับตัวเอง ทั้งการหักดิบ ตัดบัตรทิ้ง ยกเลิกทุกอย่าง และก้มหน้าก้มตาใช้หนี้จนหนี้หมด จนสามารถเริ่มต้นชีวิตได้ใหม่ แต่สำหรับคุณเอกนั้น แม้ครึ่งชีวิตที่ผ่านมา เขาได้ทำลายมันให้ย่อยยับลงไปจากพฤติกรรมการใช้เงินที่ผิดพลาด ทุกวันนี้ เขาก็ยังไม่แน่ใจกับตัวเองนักว่าจะสามารถเข้าใจ หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินได้หรือไม่
    
       "อยากฝากถึงคนที่เริ่มต้นใช้บัตรเครดิต ขอให้ใช้อย่างระมัดระวัง อย่าคิดว่าจ่ายขั้นต่ำก็พอ เพราะจะทำให้วินัยทางการเงินเราเสีย และอาจส่งผลถึงครอบครัวได้ในที่สุด" คุณเอกกล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th

หักดิบหนี้ เปิดประสบการณ์ของปุ๊ก

เดือนแรกกับการหักดิบ:ประสบการณ์ของ ปุ๊ก


ขอเรียกตัวเองว่าปุ๊กนะคะ. ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเวปนี้ที่ทำให้เห็นทางสว่าง จากวังวนหนี้ถึง8ปี. ทำงานไม่มีเงินเหลือเก็บ แต่มีหนี้ขึ้นทุกปี
ยอดบัตรเครดิตร ปี54
1. First choice. 55,000. บาท
2. ธนาคารกรุงเทพ 35,000
3.ธนาคารธนชาติ 22095.50บาท. ผ่อนไอโฟน0%10เดือน

เงินเดือนปีที่้แล้วอยู่ที่ 17,000บาท
พอปุ๊กรู้ตัวว่ามีหนี้เพิ่มขึ้น และไม่พอกับรายรับเนื่องจากต้องให้แม่เดือนละ5,500บาทและโดนหักค่าประกัน สังคม+ภาษี ทำให้เหลือเงินที่ต้องใช้จริงๆ ประมาณ10,000 บาท ซึ่งเมื่อหักกับค่าบัตรเครติดที่ต้องจ่ายทุกเดืนแล้ว แทบจะไม่พอ จึงต้องกดบัตรเครดิตรมาใช้หมุนในแต่ละเดือน ทำให้ หนี้เก่าไม่หนี้ให่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
 ด้วยความฉลาด ปุ๊กตัดสินใจทำสินเชื่อกรุงศรี Smile Cash. ยอด80,000บาท
เพื่อตั้งใจจะปิดบัทั้งหมดได้ผ่อนแบบสบายๆ แต่ปัญหามันไม่ได้จบเพียงเท่านั้นเนื่องจากหนี้เดิมที่มีอยู่ คือ
First Choice. ยอด. 55,000 ยังไม่รวมดอกเบี้ยยอดปิด
ธนาคารกรุงเทพ 35,000. ไม่รวมดอกเบี้ยยอดปิด
ทำให้ปิดบัตรเครดิตร ธนาคารกรุงเทพได้อย่างเดียว ส่วนFirst choice.ขาดอีกเกือบ10,000บาท

ทำให้มีหนี้สินเชื่อที่ต้องจ่าย 80,000.  ยอดค่างfirst Choice 10,000 และผ่อนไอโฟนอีกเดือนละ2,209.50บาท เฮ่อ หนี้ทบไปทบมา T_T
 อีก2เดือนต่อมาก็กลับเข้ามาวังวนเดิม แต่หนักกว่าเดิมเนื่องจากมีหนี้ก้องใหญ่ที่ยังไม่รวมดอกเบี้ยทำให้ค่าใช้ จ่ายประจำวันไม่พอ จึงต้องหมุนเงินด้วยการกดเงินสดจาดบัตรเครดิตรมาเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อให้ รอดไปในแต่ละเดือน ทำให้ยอดบัครfirst choice เพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อยๆ.

จากนั้นเดือนกันยายน มีเพื่อนชวนทำบัตรเครดิตรKTC  ด้วยความอยากได้กระเป๋าจึงได้ทำ แต่ตั้งใจจะไม่ใช้ แต่ต่อมาในช่วงเดือนตุลาคม เกิดปัญหาน้ำท่วมต้องอยู่ที่ทำงานเป็นระยะเวลาตลอดเกือบ3เดือน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต้องซื้อของใช้ส่วนตัว ต้องมีค่าอาหาร3มื้อ จะทำยังไง ก็ต้องกดเงินสดจาดบัตริครดิตร และใ้บัตรKTC รูดซื้อของใช้เป็นว่าเล่น มารู้ยอดอีกที เดือนมกราคม55ยอดรวม 26,000. ลมแทบจับ
 ในเดือนกุมภาพันธ์ได้โบนัทมา1ก้อน จึงนำไปปิดสินเชื่อกรุงศรีsmile cash ทันทียอดปิดอยู่ที่60,000  บาทซึ่งคิดๆไปแล้วต้องมาเสียดอกเบี้ย หมื่นกว่าบาทเพิ่อ?   กว่านะรู้ก็สายไปเสียแล้วในปัจจุบัน ปี55 หนี้ที่ยังเหลือคือ
KTC 55,000
First choice. 53,000 บาท
บัตรกดเงินสดKTC   45,000. (ปัจจุบันใช้เงินกองทุนสะสมเลี้ยงชีพปิดไปเรียบร้อยแล้ว)

หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ ปุ๊กตกงานเงินสะสมที่มีก็นำไปจ่ายบัตรเครดิตรในแต่ละเดือน. แต่ปุ๊กก็ยังไม่ได้หางานใหม่เนื่องจากต้องแต่งงานและย้ายไปอยู่ต่างังหวัด. เงินสินสอดก็นำไปเป็นค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือก็ได้ให้กับแม่ทั้งหมด.  สรุปง่ายๆตอนนี้ ตกงานมีหนี้เป็นแสนT_T
 หลังจากที่แต่งงานแล้วก็ได้บอกความจริงเกี่ยวกับหนี้ที่เกิดขึ้น. ตอนแรกก็โดนบ่นชุดใหญ่แต่เค้าก็ให้กำลังใจ โดยในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายนแฟนเป็นคนหาเงินมาจ่ายบัตรให้ แต่สามารถจ่ายได้เพียงแค่ขั้นต่ำ. บอกตรงๆสงสารแฟนมากทำงานเหนื่อยแทบตายแต่ไม่ได้ใช้เงิน.
ด้วยความโชคดีที่เข้ามาในเวปนี้ ทำให้เห็นหนทางที่จะชำระหนี้   สิ่งแรกที่ต้ทำคือ
1.หยุดจ่ายบัตร
2.ประหยัด และเก็บเงินให้มากี่สุด.
เพื่อรอ h/c. อย่างเดียว ตั้งเป้าไว้สิ้นปีนี้ จะเป็นไทแย้ว. ^^

ตอนนี้ ต้องเตรียมพร้อมกับพวกโทรทวงนี้ บอกตรงๆ ว่าโคตรกลัวแต่ยังไงก็จะสู้ ยิ่งตอนนี้เรากำลังตั้งท้องได้เดือนกว่าๆ ต้องสู้เพื่อลูก

ข้อมูลจาก :  ชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล


ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Popular Posts

Recent Posts

Download

Blogger Tricks

Blogger Themes

ปลดหนี้ © 2013 Supported by Best Blogger Templates and Premium Blog Templates - Web Design